top of page

ประวัติ

พวกเรา Japan Agri Challenge เป็นบริษัทที่ผลิตและคัดสรรหนึ่ง

ในมะเขือเทศญี่ปุ่นที่มีคุณภาพดีทีสุดในประเทศไทย ในอดีตมะเขือเทศสดตามท้องตลาดทั่วไปมีรสชาติไม่อร่อย ดังนั้น คนไทยส่วนใหญ่ยังคงไม่ชอบรับประทานมะเขือเทศ อีกอย่าง ผู้คนเชื่อว่ามันยากเกินไปที่จะปลูก

มะเขือเทศญี่ปุ่นคุณภาพสูง ภายใต้สภาพอากาศที่ร้อนและมีความชื้นสูง

ในประเทศไทย คนไทยบริโภคมะเขือเทศต่อปี ปีละ 4 กิโลกรัม โดยเฉลี่ย

ซึ่งเป็นจำนวน 1 ใน 3 ของคนญี่ปุ่น และ 1 ใน 5 ของคนทั้งโลก พวกเราอยากให้คนไทยรู้ว่ามะเขือเทศของเรามีรสชาติหวาน อร่อย ปลอดภัย

และดีต่อสุขภาพ พวกเราอยากส่งมะเขือเทศออกไปให้กับลูกค้าคนไทยจำนวนมาก ซึ่งเป็นหนึ่งในมะเขือเทศที่มีคุณภาพดีที่สุด ที่ปลูก

ในประเทศไทย และปลูกโดยคนไทยภายใต้เทคโนโลยีการผลิต

และการควบคุมคุณภาพจากญี่ปุ่น และพวกเราอยากสนับสนุน

ให้กับการเกษตรในประเทศไทย เพื่อพัฒนาสังคมชนบท และเพื่อความสุขของเด็กๆในวันข้างหน้า โดยการดำเนินธุรกิจของเราต่อไปมากกว่า

1,000 ปี ผ่านเทคโนโลยีการเกษตรของญี่ปุ่น นั่นคือความฝันของพวกเรา

ในปี 2015 พวกเรา “Japan Agri Challenge” เริ่มท้าทายตัวเองที่จะปลูกมะเขือเทศบิจิน การปลูกมะเขือเทศครั้งแรกของเราเกิดขึ้นในพื้นที่ที่มีภูเขาสูง ซึ่งมีความสูงจากระดับน้ำทะเล 850 เมตร ในจังหวัดเพชรบูรณ์

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย พวกเราเริ่มปลูกมะเขือเทศ

40 ต้น ซึ่งปลูกภายใต้โรงเรือนไม้ไผ่ที่สร้างขึ้นเอง ในทางตรงกันข้าม

กับความรัก และความใฝ่ฝันที่เรามุ่งมั่น การผลิตมะเขือเทศของเราเผชิญความยากลำบากมากในประเทศไทย ผลผลิตครั้งแรกของเรามีรสชาติดี

แต่ผลผลิตกลับไม่เพียงพอ ฟาร์มมะเขือเทศของเราเกิดโรค และแมลงระบาด ในแบบที่เราไม่เคยพบเจอมาก่อน มันเกิดขึ้น และเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเกินกว่าที่เราคิดไว้ ในประเทศไทยมีวัสดุการเกษตรที่จำกัด

ซึ่งไม่เหมือนที่ประเทศญี่ปุ่น โรงเรือนไม้ไผ่หลังแรกของเราพังทลายลงระหว่างที่ฝนตกหนักและลมแรงมาก  แม้ว่าเราจะเริ่มการจัดส่งครั้งแรก

ให้กับลูกค้าของพวกเราในเดือนสิงหาคม ปี 2015 มะเขือเทศของเราทั้งหมดก็ถูกทำลายภายในระยะเวลาเพียงสองเดือนเท่านั้น พวกเราต้อง

ไปพบลูกค้า และขอโทษพวกเขาเกือบทุกวัน

 

ปีแรก พวกเราได้มีประสบการณ์และได้เผชิญกับความแตกต่างของสภาพอากาศ สิ่งแวดล้อมทางการเกษตร และผู้คนที่นี่ ในประเทศไทย แต่พวกเราไม่เคยยอมแพ้ที่จะให้ความสุขแก่คนที่ได้รับประทาน และสนับสนุน

การพัฒนาการเกษตรในประเทศไทยด้วยมะเขือเทศบิจิน โดยให้คนไทย

ได้ใช้เทคโนโลยีจากญี่ปุ่น พวกเราพยายามอย่างดีที่สุดในทุกๆ วัน

ที่จะพัฒนามะเขือเทศบิจินอย่างต่อเนื่องไปเรื่อยๆ

2 ปี ต่อมา ในปี 2017 จำนวนโรงเรือนของเราเพิ่มขึ้นเป็น 25 โรงเรือน

และมีพนักงานจำนวน 15 คน และพวกเราก็ได้เริ่มมีฟาร์มแห่งที่ 2

ที่เชียงรายในเดือนตุลาคม ปี 2017

 

ในปี 2019 สมาชิกทีมของเราที่จ้างเข้ามาทำงานในความท้าทายนี้

มีเพิ่มมากขึ้น จนมีมากกว่า 50 คน มะเขือเทศบิจินปลูกในธรรมชาติ

ที่สมบูรณ์ในจังหวัดเพชรบูรณ์และเชียงราย ภายใต้สภาพอากาศเย็น สดชื่น ปลอดโปร่ง และมีแดดจัด น้ำที่ใช้มาจากแหล่งน้ำบนผิวดินทั้งหมด ใช้วัสดุปลูกที่คุณภาพสูงสุด ภายใต้การควบคุมอย่างเข้มงวดแบบญี่ปุ่น ทำให้มะเขือเทศของเรา รสชาติหวานมากๆ สด ลูกกลม สวย และอร่อยมาก พวกเรามักคิดถึงรอยยิ้มของลูกค้าเราเสมอ เราได้ลดการใช้สารกำจัดแมลงและศัตรูพืช ให้เหลือน้อยที่สุด และหยุดการพ่นสารเหล่านั้นตั้งแต่

2 อาทิตย์ก่อนวันเก็บเกี่ยว และที่ฟาร์มทั้งสองมีการตรวจสารตกค้างเองด้วย ทำให้มั่นใจได้ว่ามะเขือเทศของเราปลอดภัย  ภายใต้มาตรฐาน GAP GMP เราได้การรับรองฟาร์มและสถานที่บรรจุสินค้า มะเขือเทศทุกลูกผ่านคนคัดลูกต่อลูก และใช้เครื่องคัดอย่างพิถีพิถัน บรรจุและปิดใส่กล่อง

อย่างทะนุถนอม จากนั้นเราก็ส่งถึงมือลูกค้าโดยตรง สภาพแวดล้อม

การผลิต เต็มไปด้วยรอยยิ้มที่ส่งตรงไปถึงลูกค้า

 

ต้องขอบคุณทุกคน ที่มะเขือเทศบิจินมีการผลิตเพิ่มมากขึ้นทุกๆปี

และได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากลูกค้าจำนวนมากในประเทศไทย

โดยเฉพาะกรุงเทพ เมืองหลวงของประเทศไทย  พวกเรามีแผนที่จะเพิ่มกำลังการผลิตและผลิตมะเขือเทศหวานชนิดต่างๆมากขึ้นในประเทศไทย และเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าทั่วโลก  ยิ่งไปกว่านั้นในปี 2019 พวกเราเริ่มท้าทายตัวเองที่จะผลิตผักสายพันธุ์ญี่ปุ่น ซึ่งเป็นผักออแกนิค ไร้สารกำจัดศัตรูพืชและแมลง ผักออแกนิคของเราก็จะปลูกในเชียงราย

เช่นเดียวกันกับมะเขือเทศบิจิน ภายใต้การควมคุมและการจัดการแบบญี่ปุ่น ซึ่งจะวางจำหน่ายเร็วๆนี้ 

 

มะเขือเทศบิจินยิ่งกินยิ่งอร่อย ยิ่งดีต่อสุขภาพ และมีความสุขยิ่งขึ้น ความท้าทายของมะเขือเทศบิจินจะเกิดขึ้นต่อไปอีกยาวนาน ด้วยแฟนๆ

ลูกค้า มะเขือเทศบิจิน 

                                       

kSho sign.png
bottom of page